วันนี้มาดูความโง่ซ้ำโง่ซากของสมองหมา ปัญญาควาย ABP@BDZ กันต่อ
ทบทวนกันก่อน สมองหมา ปัญญาควาย ABP@BDZ เห็นว่า
คุณลุงการุณย์ สอนทุกกายต้องผ่านฐาน 7 ฐานผิด
เพราะ หลวงพ่อให้ผ่าน 7 ฐานแค่กายเดียว คือ กายมนุษย์หยาบ
ซึ่งผมก็อธิบายไปแล้วว่า อย่างไรก็ไม่ผิดแน่ๆ เพราะ กายแรกทำอย่างนั้น
กายอื่นๆ ทำอย่างนั้น ไม่ผิดแน่ๆ
แล้วตัวอย่างนี้
ก็ไม่ใช่ความผิดที่จะต้องมาโจมตีกันเป็นบ้าเป็นหลังอย่างที่ สมองหมา ปัญญาควาย ABP@BDZ ทำ
ABP@BDZ นี่ มันสมองหมา ปัญญาควายจริงๆ ทำอย่างกับเป็นเรื่องร้ายแรง ทั้งๆ
ที่คุณลุงการุณย์ก็สอนถูกแล้ว
ขอย้ำหลักฐานอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเกิดจากประสบการณ์การสอน
เราสอนของเราแบบนั้น เด็กนักเรียนทุกระดับชั้น
รวมถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยก็เห็นดวงธรรม เห็นกายธรรมกัน
สมองหมา ปัญญาควาย ABP@BDZ
มันเคยสอนวิชาธรรมกายได้แบบนี้หรือเปล่า .....
ต่อมาท่านเจ้าของกระทู้ได้โต้แย้ง สมองหมา ปัญญาควาย ABP@BDZ ไว้ดังนี้
ผมเขียนไป นึกไป ชาติหน้า คุณ ABP@BDZ แกอาจจะเกิดเป็นควาย
แล้วเห่าได้แบบหมา หรืออาจจะเกิดเป็นหมา
แล้วร้องได้อย่างควายอย่างใดอย่างหนึ่งแน่ๆ
เพราะ คำแช่งของผมนี่แหละ
ข้อความที่ว่า
"เรื่องของการเดิน 18 กาย ที่ลุงการุณย์บอกว่า ถึงกายละเอียดกายไหน
ก็ให้เดินใจ 7 ฐานของกายนั้น เหมือนที่เดินใจของกายมนุษย์หยาบ"
มันผิดอย่างไร? ก็ในเมื่อหลวงพ่อสอนไว้แบบนั้น
ขอให้ยกตัวอย่างจากหนังสือของคุณลุงการุณย์
แล้วบอกมาเลยว่า ผิดจากหนังสือของหลวงพ่อเล่มใด และเหตุผลที่คุณว่าผิด
สมองหมา ปัญญาควาย ABP@BDZ ยังไม่ทันได้ตอบ ท่านเจ้าของกระทู้ก็เขียนมาอีก 1 ความคิดเห็น
ดังนี้
ผมพยายามจะตีความความคิดของคุณนะครับ หากผิดอย่างไรก็ขออภัยด้วย คือ หนังสือ 18
กายของหลวงพ่อ ตั้งแต่หน้า 16
พูดถึงการเดินวิชา 6 ดวง ทั้ง 18 กาย (แต่ไม่ได้กล่าวถึงการผ่านฐาน 7 ฐาน)
ส่วนหน้า
38 หลวงพ่อสอนการเดินผ่านฐาน 7 ฐาน ผ่านดวง 6 ดวง เห็นกายมนุษย์ละเอียด
จากนั้นก็ถึงข้อความที่ว่า :
"หยุดอยู่กลางดวงวิมุตติญาณทัสสนะ
พอถูกส่วนเข้า ก็เห็นตัวของเราที่ไปเกิดมาเกิด อ้อ ไอ้นี่เอง ไปเกิดมาเกิด
เข้าแบบต้นแล้ว
ให้รู้จักหลักอย่างนี้ ไม่เคลื่อนละอย่างนี้ เคลื่อนไม่ได้ทีเดียวตายตัวเชียว
เมื่อรู้จักหลักอันนี้แล้ว
ต่อแต่นี้ไป ก็จะสอนให้ทำต่อไป"
จากนั้นก็ไม่ได้กล่าวถึงกายต่อๆไป
ทางคุณก็เลยเข้าใจว่า
ให้เดิน 7 ฐานเฉพาะกายมนุษย์
เลยจากกายมนุษย์ ไม่ต้องผ่าน 7 ฐาน
คราวนี้
เป็นส่วนที่ผมคิดเป็นคำตอบนะครับ :
ตั้งแต่หน้า
16 หลวงพ่อพูดถึงการเดินวิชาของทั้ง 18 กายในลักษณะที่เหมือนๆกัน แปลว่าทุกๆกายเดินเหมือนกัน
ส่วนหน้า
38 ผมว่า คำสำคัญอยู่ที่คำว่า
"แบบต้น" ถ้าผมตีความ
ก็จะเป็นลักษณะ "แบบข้างต้น" "แบบเบื้่องต้น" (หรืออาจจะเป็นคำว่า "ต้นแบบ"
ตามภาษาสมัยใหม่)
ซึ่งหากตีความอย่างนี้แล้ว
ก็แปลว่า ต้องใช้ต่อๆไป
ด้งนั้น
การที่คุณตีความว่า ใช้กับฐาน 7 ฐานใช้กับกายมนุษย์อย่างเดียว ก็ไม่น่าจะใช่
ผมขออธิบายตามหลักภาษาศาสตร์นิดหนึ่ง
ในเรื่องข้อความเก่ากับข้อความใหม่
ในการสื่อสารของมนุษย์ด้วยภาษานั้น
ถ้าผู้สื่อสารกับผู้รับสารรู้เรื่องใดด้วยกันแล้ว ก็มักจะ “ละ”
ไม่กล่าวถึงในการสื่อสารกัน
เป็นธรรมชาติในการประหยัดอย่างหนึ่งของภาษา
ยกตัวอย่าง
มีเพื่อนกัน 2 คน เดินอยู่คนละฝั่งถนน คนหนึ่งตะโกนข้ามฝั่งมาว่า “เฮ้ย ที่เก่า
เวลาเดิม” แค่นั้น ก็สื่สารกันได้แล้ว
สถานที่นัดพบ กับเวลานัดพบ ทั้ง 2 คนรู้เรื่องกันดีอยู่แล้ว
ในเรื่องการสอนฐาน 7 ฐานนี่ก็เช่นเดียวกัน หลวงพ่อสอนมาเป็นเวลาสิบๆ ปี คนเรียนก็เรียนกันมาเป็นสิบปีเช่นเดียวกัน
ในการจัดบันทึกก็ไม่ต้องไปจดให้ละเอียดถึงขนาดนั้น
ปัญหาที่ สมองหมา ปัญญาควาย ABP@BDZ ไม่ได้คิดก็คือ
การปฏิบัติ
คุณลุงและลูกศิษย์สอนกันเป็นประจำ
คือ ทั้งปริยัต และปฏิบัติ
คนอ่านเฉยๆ ไม่ปฏิบัติ อ่านน้อยด้วย สมองหมา ปัญญาควายด้วย มันจะไปรู้ดีกว่า ได้อย่างไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น